ทะเลกรด คืออะไร และส่งผลกระทบอย่างไร

ทะเลกรด เกิดจากปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในชั้นบรรยากาศโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มหาสมุทรดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำทะเล (H2O) เกิดเป็นกรดคาร์บอนิก (H2CO3) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ไฮโดรเจนไอออน (H+) ในน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น และค่า pH ของมหาสมุทรมีความเป็นกรดมากขึ้น
โดยปกติแล้ว น้ำทะเลมีค่า pH อยู่ที่ราว 8.1 แต่ปัจจุบันค่า pH ของน้ำทะเลทั่วโลกลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 8.0 ซึ่งค่า pH ของน้ำทะเลที่ลดลงทุกๆ 0.1 หน่วย จะส่งผลให้ความเข้มข้นของไฮโดรเจนไอออนในน้ำทะเลเพิ่มขึ้น 10 เท่า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลที่อาศัยโครงสร้างแข็งที่ทำจากแคลเซียมคาร์บอเนต เช่น ปะการัง หอย และแมงกะพรุน เป็นต้น
สาเหตุหลักของการเกิดปรากฏการณ์ทะเลกรด คือ กิจกรรมของมนุษย์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศอย่างต่อเนื่อง จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล การตัดไม้ทำลายป่า และการปรับเปลี่ยนพื้นที่ทางการเกษตร เป็นต้น
ผลกระทบของทะเลกรดต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศทางทะเลมีดังนี้
- ส่งผลกระทบต่อแนวปะการัง ทำให้ปะการังอ่อนแอและเกิดโรคได้ง่าย
- ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลที่อาศัยโครงสร้างแข็ง เช่น หอย และแมงกะพรุน ทำให้เจริญเติบโตช้าและอ่อนแอ
- ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารทางทะเล ทำให้สัตว์ทะเลบางชนิดสูญพันธุ์
- ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางประมง
การแก้ไขปัญหาทะเลกรดจำเป็นต้องมีการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ โดยอาจทำได้จากมาตรการต่างๆ เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงาน การหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น
ผลกระทบของ ทะเลกรด ต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศทางทะเล
- ส่งผลกระทบต่อแนวปะการัง ทำให้ปะการังอ่อนแอและเกิดโรคได้ง่าย เนื่องจากปะการังสร้างโครงกระดูกจากแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งเมื่อน้ำทะเลมีความเป็นกรดมากขึ้น จะทำให้ปะการังสร้างโครงกระดูกได้ยากขึ้น ส่งผลให้ปะการังอ่อนแอและเกิดโรคได้ง่าย
- ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลที่อาศัยโครงสร้างแข็ง เช่น หอย และแมงกะพรุน ทำให้เจริญเติบโตช้าและอ่อนแอ เนื่องจากสัตว์ทะเลเหล่านี้สร้างเปลือกแข็งจากแคลเซียมคาร์บอเนตเช่นกัน เมื่อน้ำทะเลมีความเป็นกรดมากขึ้น จะทำให้สัตว์ทะเลเหล่านี้สร้างเปลือกแข็งได้ยากขึ้น ส่งผลให้เจริญเติบโตช้าและอ่อนแอ
- ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารทางทะเล ทำให้สัตว์ทะเลบางชนิดสูญพันธุ์ เนื่องจากปะการังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและอาหารของสัตว์ทะเลหลายชนิด เมื่อปะการังถูกทำลาย สัตว์ทะเลที่อาศัยปะการังก็จะสูญพันธุ์ตามไปด้วย
- ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางประมง เนื่องจากสัตว์ทะเลบางชนิดที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมประมง เช่น ปลากะพง ปลาทู และปลาหมึก ได้รับผลกระทบจากทะเลกรด ทำให้ผลผลิตทางประมงลดลง
นอกจากนี้ ทะเลกรดยังส่งผลกระทบต่อมนุษย์อีกด้วย เนื่องจากมนุษย์บริโภคอาหารทะเลเป็นอาหารหลัก เมื่อสัตว์ทะเลที่เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ได้รับผลกระทบจากทะเลกรด ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ได้
การแก้ไขปัญหาทะเลกรดจำเป็นต้องมีการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ โดยอาจทำได้จากมาตรการต่างๆ เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงาน การหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น
การแก้ไขปัญหาทะเลกรด
การแก้ไขปัญหาทะเลกรดจำเป็นต้องมีการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ โดยอาจทำได้จากมาตรการต่างๆ เช่น
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงาน เช่น การใช้รถสาธารณะ การประหยัดน้ำประปา และการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ได้ใช้งาน
- การหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ
- การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การปลูกต้นไม้ และการลดการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง
การแก้ไขปัญหาทะเลกรดต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป เพื่อให้เราสามารถปกป้องมหาสมุทรและสิ่งมีชีวิตในทะเลให้คงอยู่ต่อไปได้